“Armpit”by michael_balticis licensed under CC BY 2.0
ปัญหากลิ่นตัวซึ่งเกิดขึ้นบริเวณรักแร้ ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย จากสถิติพบว่าผู้มีกลิ่นตัวแรงบางคนน้ำยาดับกลิ่นตัวก็ไม่ช่วยแก้ไขปัญหานี้
ในร่างกายของมนุษย์เรามีสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เช่นแบคทีเรีย อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งแบคทีเรียซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและที่มีโทษต่อร่างกาย ชนิดของแบคทีเรียก็อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แบคทีเรียซึ่งอาศัยอยู่บนผิวหนังของมนุษย์มีมากมาย จำนวนและชนิดของแบคทีเรียขึ้นอยู่กับบริเวณผิวหนังแต่ละส่วน แม้แต่แบคทีเรียของรักแร้ข้างซ้ายและขวาก็อาจเป็นคนละชนิดและอาจมีจำนวนไม่เท่ากัน
Chris Callewaert นักวิทยาศาสตร์จาก University of California, San Diego เปิดเผยกับ New Scientist ว่าเมื่อหลายปีก่อนเขามีโอกาสพบกับแฝดแท้คู่หนึ่ง ซึ่งแม้จะมีพันธุกรรมแทบจะไม่แตกต่างกันแต่ที่ต่างกันคือคนหนึ่งกลิ่นตัวแรงมากขณะที่อีกคนหนึ่งไม่ค่อยมีกลิ่นตัว ทำให้เขาฉุกคิดว่ากลิ่นตัวที่ต่างกันของทั้งคู่มาจากแบคทีเรีย และอาจแก้ไขได้ด้วยแบคทีเรีย
การทดลองของ Chris Callewaert เริ่มจากให้แฝดที่กลิ่นตัวไม่แรงงดอาบน้ำ 4 วัน เพื่อสะสมจำนวนแบคทีเรียที่รักแร้ให้มากที่สุดและเพื่อให้แบคทีเรียที่ฝังตัวอยู่ใต้ผิวรักแร้เคลื่อนขึ้นมาอยู่บนผิวหนังตาม Cell ที่หลุดร่อนออกมาตามอายุขัย ในเวลาเดียวกันก็ให้แฝดที่กลิ่นตัวแรงอาบน้ำฟอกสบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียทุกวันต่อเนื่องกัน 4 วันเพื่อให้รักแร้ของเขามีแบคทีเรียเหลืออยู่น้อยที่สุด จากนั้นก็นำเหงื่อและ Cell ที่ตายแล้วจากรักแร้ของแฝดกลิ่นตัวไม่แรงมาแปะไว้ที่รักแร้ของแฝดกลิ่นตัวแรก
ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถแก้ไขปํญหากลิ่นตัวแรงได้สำเร็จและยังได้ผลต่อเนื่องมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว เพื่อยืนยันผล Chris Callewaert และทีมงานทดสอบวิธีเดียวกันกับอาสาสมัครอีก 17 คนซึ่งมีปัญหากลิ่นตัวแรงและมีญาติสนิทที่กลิ่นตัวไม่แรงซึ่งยินยอมสละแบคทีเรียที่รักแร้เพื่อร่วมทดสอบ และพบว่า 16 คนมีกลิ่นตัวลดลงภายในหนึ่งเดือน และ 8 คนได้ผลนานเกินกว่า 3 เดือน
ขั้นตอนต่อไปของ Chris Callewaert และทีมงาน ก็คือการวิจัยว่ามีแบคทีเรียชนิดใดซึ่งสามารถใช้ลดปัญหากลิ่นตัวแรงของทุกคนโดยไม่จำเป็นต้องใช้แบคทีเรียจากญาติสนิทที่กลิ่นตัวไม่แรงอีกต่อไป นอกจากนี้ยังจะขยายผลการศึกษาเพื่อใช้กับผู้มีปัญหาโรคผิวหนังเช่นกลากและสะเก็ดเงิน
Chris Callewaert แนะนำวิธีลดปัญหากลิ่นตัวแรงอย่างง่ายๆ ดังนี้
- เพิ่มการบริโภคผักผลไม้และลดปริมาณการบริโภคเนื้อสัตว์และไขมันสัตว์เพื่อลดจำนวนแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวซึ่งส่วนใหญ่บริโภคไขมันเป็นอาหาร
- โกนขนรักแร้ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมเหงื่อและ Cell ผิวหนังที่ตายแล้วและเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรีย
- เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้เสื้อที่ทำจากผ้า Polyester
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภท Fast Food
- ควบคุมน้ำหนักให้พอเหมาะ
ที่มา: New Scientist
0 Comments:
Post a Comment