Tweet
ปลายฤดูหนาว เวลาเช้าๆ อากาศยังเย็นสบายและเหมาะสำหรับการเดินเที่ยวเลือกซื้อข้าวของแบบไม่ต้องเร่งรีบ เช่นการเดินเที่ยวตลาดน้ำ และที่ใกล้ใจกลางเมืองหลวงที่สุดน่าจะเป็นตลาดน้ำตลิ่งชัน ว่าไปแล้วผมก็เหมือนคนใกล้เกลือกินด่าง เพราะเที่ยวตลาดน้ำในต่างจังหวัดเป็นประจำแต่ตลาดน้ำตลิ่งชันซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่นนทบุรีไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกลับไม่มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศสักครั้ง
เมื่อวานนี้ผมออกจากบ้านประมาณ 7.30 น. ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงตลาดน้ำตลิ่งชัน ซึ่งด้านหนึ่งติดกับเขตตลิ่งชันส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นทางรถไฟสายใต้ ขนาดของตลาดน้ำตลิ่งชันไม่ใหญ่มากนักทอดยาวขนานไปกับเขตตลิ่งชันไปสุดที่ริมน้ำของคลองชักพระ พวกเราที่ขับรถเองสามารถเข้าทางถนนฉิมพลีข้างๆ สน.ตลิ่งชัน หรือถ้ามาทางบางขุนนทน์ก็อยู่เลยกรมบังคับคดีขึ้นมาพอประมาณ และถ้าจะใช้บริการรถ ขสมก. ก็มีสาย 79 ผ่านหน้าตลาดน้ำ
ผมเติมพลังให้ตัวเองด้วยมื้อเช้าที่ร้านผัดไทยโบราณซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ หน้าร้านติดเครื่องหมายรับประกันความอร่อยหลายๆ แบรนด์ ห่างจากตลาดน้ำประมาณ 200 เมตร มีทั้งผัดไทยดั้งเดิมและใส่กุ้งสด เสิรฟพร้อมมะนาวฝานและผักหลายๆ ชนิดที่ถูกใจผมมากก็คือหัวปลี ทางร้านจะปรุงรสมาให้แล้วแต่ถ้าชอบรสจัดก็มีเครื่องปรุงให้เลือกเติม ราคาจานละ 40 บาท น้ำเย็นขวดละ 10 บาท รสชาดโดยรวมถือว่าดีกว่าผัดไทยโดยทั่วไปซึ่งปัจจุบันเหลือเจ้าอร่อยอยู่ไม่กี่แห่งเท่านั้น
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นครับว่า ขนาดของตลาดน้ำตลิ่งชันไม่ใหญ่มาก ตลาดส่วนในสุดที่อยู่ริมน้ำมีบริการ Boat Tour ชมบรรยากาศของคลองชักพระและละแวกใกล้เคียง ความสะอาดและความเป็นระเบียบของตลาดใช้ได้เลยครับส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะอยู่ติดกับเขตตลิ่งชันทำให้ดูแลจัดระเบียบได้อย่างใกล้ชิด สิ่งปลูกสร้างในตลาดออกแบบให้ดูทันสมัยขึ้นและน่าเดินเที่ยวกว่าตลาดน้ำในต่างจังหวัด
เวลาเช้าๆ พ่อค้าแม่ค้าเพิ่งทยอยตั้งร้าน ทำให้บรรยากาศยังไม่คึกคักมาก แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอากาศร้อนและความแออัด มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินเที่ยวชมประมาณยี่สิบกว่าคน เป็นฝรั่งบ้าง แต่ส่วนใหญเป็นชาวจีนวัยหนุ่มสาวมาเที่ยวกันเอง (ไม่ได้มากับ Group ทัวร์) มีความรู้ระดับสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้คล่อง
ตลาดมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย ตั้งแต่ผลไม้, ต้นไม้จากสวนในตลิ่งชันและนนทบุรี, ของประดับบ้าน, ขนมโบราณ, และซุ้มขายอาหารหลายชนิด เช่นขนมเบื้องญวน ซึ่งแม่ค้าโชว์ลีลาเต้นประกอบเสียงเพลงไปพร้อมๆ กับการปรุง, ก๋วยจั๊บที่คนขายบอกเป็นแบบโบราณ ทำให้ผมต้องลองสั่งมาชิมถึงรสชาดจะใช้ได้ระดับหนึ่งและราคาถูก (30 บาท) แต่ก็แอบผิดหวังตรงที่ไม่โบราณมากอย่างที่ผมเคยกินสมัยเด็กๆ ซึ่งจะต้มเส้นก๋วยจั๊บกับแป้งข้าวเจ้าข้นๆ แล้วราดด้วยน้ำพะโล้รสเข้ม
ผมใช้เวลาเดินเที่ยวดูข้าวของอยู่จนเกือบสิบโมง ได้ของติดมือเป็นที่ระลึกแค่อย่างเดียวคือ เซรามิกรูปไก่ 2 ชิ้นสำหรับประดับโต๊ะทำงาน โดยส่วนตัวผมชอบบรรยากาศเช้าๆ ที่ไม่แออัดแบบนี้นะครับ แต่ก็ตั้งใจว่าจะหาเวลาแวะมาสัมผัสความคึกคักตอนช่วงสายๆ บ่ายๆ ของตลาดน้ำแห่งนี้ ซึ่งเปิดเฉพาะวันเสาร์, อาทิตย์, และวันหยุดราชการ ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 17.00 น.
ปิดรายการเดินเที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชัน ด้วยร้านลูกชิ้นนายเงี๊ยบ ก๋วยเตี๋ยวร้านดังของบางขุนนนท์ที่เปิดกิจการมากว่า 50 ปี ร้านนี้อยู่ข้างๆ สน. บางขุนนนท์ ลูกชิ้นของร้านนี้ทำเองโดยใช้เนื้อปลาอินทรีย์และปลาหางเหลือง และยังใช้เตาถ่านอยู่ รสชาดของก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นนายเงี๊ยบจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวยุคดั้งเดิมที่รสไม่จัดจ้านเน้นซดน้ำได้คล่องคอ ราคาชามละ 50 บาท มีลูกชิ้นปลา, เส้นปลา, ฮือก้วย ให้ซื้อกลับบ้านครับ
พวกเราที่สนใจสามารถชมภาพทั้งหมดได้ที่ Google Photos Album และ Clip ด้านล่างเป็นลีลาการปรุงประกอบจังหวะเพลงของแม่ค้าขนมเบื้องญวนครับ
0 Comments:
Post a Comment