ดอกไม้สวยๆ ในแจกันช่วยให้บรรยากาศในบ้านหรือห้องทำงานสดชื่นขึ้นท้นที แต่ปัญหาก็คือดอกไม้สวยอยู่ได้ไม่นานก็เหี่ยว หลายๆ คนใช้การเติมน้ำตาลหรือ Aspirin ลงในแจกันเพื่อช่วยให้ดอกไม้อยู่ได้นานขึ้น ซึ่งบางครั้งก็ได้ผลบางครั้งดอกไม้ก็เหี่ยวเร็วเหมือนเดิม
Lifehacker เผยเคล็ดลับที่จะช่วยให้ดอกไม้ในแจกันคงความสดได้นานขึ้น ติดตามรายละเอียดกันครับ
ดอกไม้ที่ถูกตัดจากต้นต้องการความเอาใจใส่ดูแลมากกว่าปกติ เพราะไม่มีเกราะป้องกันตัวเองเหมือนที่บานอยู่บนต้น เพื่อช่วยให้ดอกไม้ในแจกันไม่เหี่ยวเร็วจนเกินไป Lifehacker แนะนำไว้ดังนี้
- ล้างแจกันให้สะอาดด้วยผงซักฟอกหรือสบู่ เพื่อกำจัดแบคทีเรียและเชื้อราซึ่งเป็นศัตรูสำคัญของพืชทุกชนิด
- น้ำที่เติมในแจกันต้องเป็นน้ำอุ่น อุณหภูมิประมาณ 110°F หรือ 43°C (คนส่วนใหญ่มักใช้น้ำเย็น) เติมน้ำอุ่นให้เต็มแจกันและปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีหรือจนฟองอากาศในแจกันหมดไป
- เติมสารอาหารสำหรับดอกไม้ ซึ่งเราสามารถทำเอง โดยมีส่วนประกอบสำคัญ 3 อย่างคือ Bleach หรือสารฟอกขาวเพื่อป้องกันการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ปริมาณ 1/4 ช้อนชา, Citric Acid หรือน้ำมะนาว เพื่อช่วยปรับค่า PH และช่วยให้ดอกไม้สามารถดูดซึมน้ำได้ดีขึ้น ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ, และ Sugar หรือน้ำตาลที่จะช่วยให้ดอกไม้สดชื่นสวยงามอยู่ได้นาน ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อปริมาณน้ำ 1 Quart หรือ 1.14 ลิตร
- ตัดก้านดอกไม้เป็นแนวเฉียง 45 องศา เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ท่อลำเลียงอาหารของดอกไม้
- ปักดอกไม้ลงในแจกันด้วยความระมัดระวังไม่ให้เกิดฟองอากาศที่ปลายก้าน ซึ่งจะขัดขวางการดูดซึมน้ำและอาหาร
- ตั้งแจกันดอกไม้ให้ห่างจากผลไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้วย เนื่องจากผลไม้ทุกชนิดจะมีการคาย Ethylene Gas ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้ผลไม้สุกและทำให้ดอกไม้มีอายุสั้นลง
- ตั้งแจกันในบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดในบ้านหรือที่ทำงาน ถ้าไม่อยู่บ้านหรือที่ทำงานก็นำแจกันดอกไม้แช่ในตู้เย็น (ไม่ใช่ช่อง Freeze) แต่ให้ห่างจากที่เก็บผลไม้
ได้ผลอย่างไรบอกกันด้วยครับ จะได้เป็นเคล็ดลับสำหรับผู้รักดอกไม้คนอื่นๆ
ขอบคุณ Clip จาก Reactions YouTubeChannel ครับ
0 Comments:
Post a Comment