Tweet
คนที่มีอาการป่วยกระเสาะกระแสะ เป็นๆ หายๆ หาหมอเป็นว่าเล่น เปลี่ยนหมอรักษาไม่รู้กี่คน แต่พักนึงก็เกิดอาการภูมิแพ้ก็ขึ้นมา เรียกว่ามียาแก้แพ้เป็นเพื่อน เชื่อหรือไม่ว่าอาการเหล่านี้อาจเกิดได้เพราะ "การกิน" ยิ่งกิน สุขภาพยิ่งแย่ ยิ่งเพี้ยนไปกันใหญ่ ทั้งหมดเป็นเพราะอาการที่เรียกว่า "ภูมิแพ้อาหาร"
อาการ เหล่านี้ยิ่งเด็กยิ่งเป็น เพราะมีการพบว่า มีเด็ก 3% จะมีอาการเหล่านี้ และจะลดน้อยลงเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีความรุนแรงตั้งแต่เบาะๆ ได้แก่คัน บวม เป็นผื่น ไปจนถึงรุนแรงจนเสียชีวิต หรือก่อให้เกิดโรค เรื้อรังอื่นๆ ได้
อาการการแพ้เหล่านี้มีทั้งแบบเฉียบพลันและแบบแฝง
แบบเฉียบพลัน นั้น พบได้บ่อยเกิดจากกลไกระบบภูมิต้านทานกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันใน กระแสเลือดหรือในเนื้อเยื่อที่ไวต่อความรู้สึก เช่น จมูก คอ ปอด ผิวหนัง หรือทางเดินอาหาร ทำให้เกิดอาการคัน บวมที่ปาก คอ ทำให้หายใจลำบาก หรือกลืนอาหารลำบาก ปวดท้อง ท้องร่วงได้ อาหารที่ทำให้แพ้เฉียบพลัน นั้นมักจะพบในอาหารทะเล เช่น กุ้ง กั้ง ปู ถั่ว บางคนอาจแพ้ปลา แพ้ไข่ เป็นต้น การแพ้แบบนี้ ถ้าเป็นในเด็กอาจหายเมื่อโตขึ้น แต่ถ้าเกิดในผู้ใหญ่มักจะต้องแพ้ไปตลอดชีวิต
ส่วนการแพ้ชนิดแฝงนั้น อาการจะไม่แสดงอย่างชัดเจน ผู้ป่วยจึงจะไม่รู้ตัวต่อเมื่อกินอาหารแบบนั้นอยู่ซ้ำๆ สม่ำเสมอ จนเม็ดเลือดขาวไม่สามารถขจัดออกไปได้ ทำให้เกิดการตกค้างของสารอาหาร ก่อให้เกิดการอักเสบที่จุดใดจุดหนึ่งในร่างกายอย่าง ต่อเนื่อง ผลก็คืออาจเกิดโรคที่เรื้อรังอย่างที่นึกไม่ถึง เช่น หวัด หูน้ำหนวก ไซนัส ข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ ซึมเศร้า สมาธิสั้น ออทิสติก เป็นต้น อาหารที่อาจทำให้เกิดภาวะเหล่านี้มักอยู่ในกลุ่มอาหารประเภท นม ไข่ ถั่ว
นอกจากการแพ้อาหารที่ว่าแล้ว ยังมีอีกอาการหนึ่งที่เรียกว่าการรับอาหารไม่ได้ ซึ่งอาการนี้ที่เห็นได้บ่อยคือ คนที่ย่อยนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมไม่ได้ หรือที่เรียกกันว่าคนแพ้นม อาการเหล่านี้เกิดจากน้ำย่อยที่ลำไส้สร้างขึ้นเพื่อมาย่อยน้ำตาลนมเกิดภาวะ บกพร่อง เมื่อน้ำตาลนมไม่ถูกย่อย แบคทีเรียก็จะเริ่มทำงาน สร้างก๊าซขึ้น จึงทำให้เกิดอาการท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสียได้ อาการเหล่านี้นอกจากนมแล้ว สารอาหารปรุงแต่งรส กลิ่น สี ประเภทสีผสมอาหาร ผงชูรส สารป้องกันเชื้อรา ก็อาจจะทำให้เกิดอาการในรูปแบบร้อนซู่ซ่า ปวดหัว เจ็บหน้าอก หมดแรง หงุดหงิด หอบหืด
การออกกำลังกายอาจทำให้อาการแพ้เกิดขึ้นมาได้ เพราะอาหารบางอย่างอาศัยความร้อนของร่างกายเป็นตัวกระตุ้น โดยจะมีอาการคัน เบาศีรษะก่อนที่จะเกิดการแพ้ได้ ดังนั้นวิธีเลี่ยงได้ดีที่สุดคือ ควรงดรับประทานอาหารก่อนกำลังกาย 2 ชั่วโมง และอย่าลืมหลีกเลี่ยงอาหารหรือสารอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ด้วย อาการภูมิแพ้เหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง และยังสามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรมอีกด้วย
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ตรวจหาภูมิแพ้ได้หลายวิธี รวมไปถึงโปรแกรมการตรวจหาภูมิแพ้อาหารแฝงได้มากถึง 96 ชนิดสามารถติดต่อสอบถามจากโรงพยาบาลใหญ่ๆ ได้
ที่มา: http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02spo03090752§ionid=0219&day=2009-07-09
0 Comments:
Post a Comment