พวกเราที่เลี้ยงแมวจะทราบว่าแมวทุกตัวจะมีความสุขมากเมื่อเราลูบหัวลูบคอเกาคางให้มัน นักวิทยาศาสตร์จาก Tufts University บอก สาเหตุที่แมวชอบให้ลูบหัวเกาคาง ไว้ดังนี้
Tuesday, August 29, 2017
สาเหตุที่แมวชอบให้ลูบหัวเกาคาง
Tweet
พวกเราที่เลี้ยงแมวจะทราบว่าแมวทุกตัวจะมีความสุขมากเมื่อเราลูบหัวลูบคอเกาคางให้มัน นักวิทยาศาสตร์จาก Tufts University บอก สาเหตุที่แมวชอบให้ลูบหัวเกาคาง ไว้ดังนี้
พวกเราที่เลี้ยงแมวจะทราบว่าแมวทุกตัวจะมีความสุขมากเมื่อเราลูบหัวลูบคอเกาคางให้มัน นักวิทยาศาสตร์จาก Tufts University บอก สาเหตุที่แมวชอบให้ลูบหัวเกาคาง ไว้ดังนี้
สาธารณะสุขอังกฤษแนะนำวัยกลางคนและสูงอายุให้เดินเร็ว
Tweet
Public Health England หน่วยงานของกระทรวง สาธารณะสุขอังกฤษแนะนำวัยกลางคนและสูงอายุให้เดินเร็ว เพื่อช่วยให้สุขภาพยังแข็งแรง ลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ประมาณ 15%
Dr Jenny Harries เจ้าหน้าที่จาก Public Health England เปิดเผยว่าการทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวใช้พลังงานของคนทั่วไปลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อย่างเข้าสู่วัย 40 ปี และพบว่าวัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ (ระหว่าง 40 - 60 ปี) ในยุคปัจจุบันทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวใช้พลังงานน้อยกว่าคนยุค ค.ศ. 1960 ถึง 20% และเดินน้อยกว่าเดิมประมาณปีละ 15 ไมล์ หรือประมาณ 24 กิโลเมตร
Dr Jenny Harries แนะนำให้คนที่มีอายุระหว่าง 40 ถึง 60 ปี ให้เดินเร็วๆ ด้วยความเร็วประมาณ 3 ไมล์ต่อชั่วโมง (4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) วันละ 10 นาที ประโยชน์ก็คือจะช่วยลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ประมาณ 15% จะพบความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยลดโอกาสเกิดโรคความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, น้ำหนักเกินหรือต่ำกว่ามาตรฐาน, โรควิตกกังวลและซึมเศร้า, รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและอาการปวดหลัง
คำแนะนำให้คนวัยกลางคนและสูงอายุเดินช้าๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ อาจต้องเปลี่ยนเป็นเดินเร็วแต่เพิ่มความระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
ที่มา: BBC และ BBC Health
Public Health England หน่วยงานของกระทรวง สาธารณะสุขอังกฤษแนะนำวัยกลางคนและสูงอายุให้เดินเร็ว เพื่อช่วยให้สุขภาพยังแข็งแรง ลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ประมาณ 15%
Dr Jenny Harries เจ้าหน้าที่จาก Public Health England เปิดเผยว่าการทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวใช้พลังงานของคนทั่วไปลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อย่างเข้าสู่วัย 40 ปี และพบว่าวัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ (ระหว่าง 40 - 60 ปี) ในยุคปัจจุบันทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวใช้พลังงานน้อยกว่าคนยุค ค.ศ. 1960 ถึง 20% และเดินน้อยกว่าเดิมประมาณปีละ 15 ไมล์ หรือประมาณ 24 กิโลเมตร
Dr Jenny Harries แนะนำให้คนที่มีอายุระหว่าง 40 ถึง 60 ปี ให้เดินเร็วๆ ด้วยความเร็วประมาณ 3 ไมล์ต่อชั่วโมง (4.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) วันละ 10 นาที ประโยชน์ก็คือจะช่วยลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ประมาณ 15% จะพบความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น โดยลดโอกาสเกิดโรคความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, น้ำหนักเกินหรือต่ำกว่ามาตรฐาน, โรควิตกกังวลและซึมเศร้า, รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและอาการปวดหลัง
คำแนะนำให้คนวัยกลางคนและสูงอายุเดินช้าๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ อาจต้องเปลี่ยนเป็นเดินเร็วแต่เพิ่มความระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
ที่มา: BBC และ BBC Health
Saturday, August 26, 2017
ไข่ต้มสุกกำลังดี ปอกเปลือกไข่ง่ายๆ ทำอย่างไร
Tweet
ไข่ต้มอาหารที่สะดวกที่สุด แต่จะต้มให้สุกกำลังดีและปอกเปลือกไข่ได้ง่ายๆ กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะบางครั้งก็ไม่สุก บางครั้งก็สุกเกินไป เว็บไซต์ Lifehacker แนะนำวิธีต้มไข่ให้สุกกำลังดี และวิธีที่จะช่วยให้การปอกเปลือกไข่ต้มเป็นเรื่องเล็ก
Image Credit: Jingjiaowang
ไข่ต้มอาหารที่สะดวกที่สุด แต่จะต้มให้สุกกำลังดีและปอกเปลือกไข่ได้ง่ายๆ กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะบางครั้งก็ไม่สุก บางครั้งก็สุกเกินไป เว็บไซต์ Lifehacker แนะนำวิธีต้มไข่ให้สุกกำลังดี และวิธีที่จะช่วยให้การปอกเปลือกไข่ต้มเป็นเรื่องเล็ก
Thursday, August 24, 2017
งานวิจัยระบุ ดื่มกาแฟอาจทำให้อายุยืนขึ้น จริงหรือไม่?
Tweet
งานวิจัยโดย International Agency for Research on Cancer และ Imperial College London พบว่าการ ดื่มกาแฟอาจทำให้อายุยืนขึ้น อย่างไรก็ตามมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุอาจมาจาก Lifestyles ของคนดื่มกาแฟได้เช่นกัน
นักวิจัยจาก International Agency for Research on Cancer และ Imperial College London เปิดเผยผลการศึกษาที่ได้จากการสำรวจประชากรอายุมากกว่า 35 ปี ใน 10 ประเทศทวีปยุโรป จำนวน 521,330 คน โดยข้อมูลระบุว่าจำนวนกาแฟที่ดื่มเพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กับการลดลงของการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและโรคในลำไส้และทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟทั่วไปหรือแบบไร้คาเฟอีน
ผลการศึกษาพบว่าผู้ดื่มกาแฟวันละ 2 ถึง 4 แก้วช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคเหล่านี้ประมาณ 18% เมื่อเทียบกับคนไม่ดื่มกาแฟ และลดความเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ อีกหลายอย่างเช่น โรคทางเดินหายใจ, โรคเบาหวาน, โรคไต เป็นต้น อย่างไรก็ตามผลวิจัยไม่ได้ระบุว่าสารประกอบใดในกาแฟที่มีผลให้อายุยืนขึ้น
ถึงแม้จะเป็นการสำรวจในประชากรจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนตั้งข้อสังเกตถึงความสมบูรณ์ของงานวิจัยชิ้นนี้ เนื่องจากไม่มีการสำรวจรายได้ของอาสาสมัครที่ดื่มและไม่ดื่มกาแฟทั้งๆ ที่รายได้มีส่วนสัมพันธ์กับ Lifestyles และสุขภาพของคนทั่วไป คนที่ดื่มกาแฟปริมาณมากอาจเป็นผู้มีรายได้มาก, มี Lifestyle และการดูแลสุขภาพดีกว่าคนไม่ดื่มกาแฟเนื่องจากมีรายได้น้อย นอกจากนี้ยังไม่ได้นำผลวิจัยซึ่งพบว่ากาแฟมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคร้ายแรงบางชนิดมาประกอบการพิจารณา
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์และโทษของกาแฟ ซึ่งออกมาบ่อยครั้งมักมีความขัดแย้งเป็นประจำ เนื่องจากกาแฟเป็นเครื่องดื่มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก งานวิจัยซึ่งถูกต้องสมบูรณ์จำเป็นต้องศึกษาทุกแง่มุมในการใช้ชีวิตของคนทั่วไปจำนวนมากในวงกว้าง ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก
การเพิ่มปริมาณกาแฟที่ดื่มในแต่ละวันเพื่อให้อายุยืนขึ้น ไม่น่าจะคุ้มค่าเสี่ยงเมื่อเทียบกับการเพิ่มเวลาออกกำลังกายแลุะดูแลสุขภาพอีกวันละไม่กี่นาทีซึ่งมีแต่ได้กับได้
ที่มา: BBC และ CNN
Image Credit: fireskystudios.com
งานวิจัยโดย International Agency for Research on Cancer และ Imperial College London พบว่าการ ดื่มกาแฟอาจทำให้อายุยืนขึ้น อย่างไรก็ตามมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุอาจมาจาก Lifestyles ของคนดื่มกาแฟได้เช่นกัน
นักวิจัยจาก International Agency for Research on Cancer และ Imperial College London เปิดเผยผลการศึกษาที่ได้จากการสำรวจประชากรอายุมากกว่า 35 ปี ใน 10 ประเทศทวีปยุโรป จำนวน 521,330 คน โดยข้อมูลระบุว่าจำนวนกาแฟที่ดื่มเพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กับการลดลงของการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและโรคในลำไส้และทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟทั่วไปหรือแบบไร้คาเฟอีน
ผลการศึกษาพบว่าผู้ดื่มกาแฟวันละ 2 ถึง 4 แก้วช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคเหล่านี้ประมาณ 18% เมื่อเทียบกับคนไม่ดื่มกาแฟ และลดความเสี่ยงต่อโรคอื่นๆ อีกหลายอย่างเช่น โรคทางเดินหายใจ, โรคเบาหวาน, โรคไต เป็นต้น อย่างไรก็ตามผลวิจัยไม่ได้ระบุว่าสารประกอบใดในกาแฟที่มีผลให้อายุยืนขึ้น
ถึงแม้จะเป็นการสำรวจในประชากรจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนตั้งข้อสังเกตถึงความสมบูรณ์ของงานวิจัยชิ้นนี้ เนื่องจากไม่มีการสำรวจรายได้ของอาสาสมัครที่ดื่มและไม่ดื่มกาแฟทั้งๆ ที่รายได้มีส่วนสัมพันธ์กับ Lifestyles และสุขภาพของคนทั่วไป คนที่ดื่มกาแฟปริมาณมากอาจเป็นผู้มีรายได้มาก, มี Lifestyle และการดูแลสุขภาพดีกว่าคนไม่ดื่มกาแฟเนื่องจากมีรายได้น้อย นอกจากนี้ยังไม่ได้นำผลวิจัยซึ่งพบว่ากาแฟมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคร้ายแรงบางชนิดมาประกอบการพิจารณา
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์และโทษของกาแฟ ซึ่งออกมาบ่อยครั้งมักมีความขัดแย้งเป็นประจำ เนื่องจากกาแฟเป็นเครื่องดื่มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก งานวิจัยซึ่งถูกต้องสมบูรณ์จำเป็นต้องศึกษาทุกแง่มุมในการใช้ชีวิตของคนทั่วไปจำนวนมากในวงกว้าง ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก
การเพิ่มปริมาณกาแฟที่ดื่มในแต่ละวันเพื่อให้อายุยืนขึ้น ไม่น่าจะคุ้มค่าเสี่ยงเมื่อเทียบกับการเพิ่มเวลาออกกำลังกายแลุะดูแลสุขภาพอีกวันละไม่กี่นาทีซึ่งมีแต่ได้กับได้
ที่มา: BBC และ CNN
Thursday, August 17, 2017
4 วิธีปอกหัวหอม น้ำตาไม่ไหล
Tweet
หัวหอมเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงหลักของอาหารทั่วโลก ถึงจะเป็นส่วนประกอบสำคัญและรสอร่อยแต่คนส่วนใหญ่ไม่อยากลงมือปอกหรือหั่นหัวหอมเองเพราะมักจะมีอาการน้ำตาไหล เว็บไซต์ Good Housekeeping Institute แนะนำ 4วิธีปอกหัวหอม น้ำตาไม่ไหล ไว้ดังนี้
หัวหอมเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงหลักของอาหารทั่วโลก ถึงจะเป็นส่วนประกอบสำคัญและรสอร่อยแต่คนส่วนใหญ่ไม่อยากลงมือปอกหรือหั่นหัวหอมเองเพราะมักจะมีอาการน้ำตาไหล เว็บไซต์ Good Housekeeping Institute แนะนำ 4วิธีปอกหัวหอม น้ำตาไม่ไหล ไว้ดังนี้
Wednesday, August 16, 2017
Fat but Fit อ้วนแต่ฟิต เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
Tweet
ผลสำรวจที่รายงานใน European Heart Journal ระบุว่าคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือคนอ้วน ถึงจะมีสภาพร่างกายที่ฟิตและแข็งแรง แต่ยังคงเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
ผลการสำรวจโดย Imperial College London และ University of Cambridge ซึ่งเก็บข้อมูลจากพลเมืองในยุโรป 10 ประเทศจำนวน 5 แสนคน ติดต่อกันประมาณ 10 ปี พบว่าคนอ้วนที่มีความดันโลหิต, จำนวน Cholesterol ในเลือด และน้ำตาลในเลือด อยู่ในเกณฑ์ปกติเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่มีน้ำหนักมาตรฐานและมีค่าตรวจวัดสุขภาพระดับเดียวกันประมาณ 28%
ผลการศึกษาพบว่าอาการโรคหัวใจในกลุ่ม Fat but Fit อ้วนแต่ฟิต จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยพบอาการ ความดันโลหิตสูง, Cholesterol ในเลือดสูง และน้ำตาลในเลือดสูง เมื่ออายุมากขึ้น ตามมาด้วยโรคหัวใจและอาการหัวใจวาย
Prof Metin Avkiran จาก British Heart Foundation แนะนำว่าการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงจากโรคหัวใจ
ที่มา: BBC
Image Credits: Rachel Walker
ผลสำรวจที่รายงานใน European Heart Journal ระบุว่าคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานหรือคนอ้วน ถึงจะมีสภาพร่างกายที่ฟิตและแข็งแรง แต่ยังคงเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
ผลการสำรวจโดย Imperial College London และ University of Cambridge ซึ่งเก็บข้อมูลจากพลเมืองในยุโรป 10 ประเทศจำนวน 5 แสนคน ติดต่อกันประมาณ 10 ปี พบว่าคนอ้วนที่มีความดันโลหิต, จำนวน Cholesterol ในเลือด และน้ำตาลในเลือด อยู่ในเกณฑ์ปกติเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนที่มีน้ำหนักมาตรฐานและมีค่าตรวจวัดสุขภาพระดับเดียวกันประมาณ 28%
ผลการศึกษาพบว่าอาการโรคหัวใจในกลุ่ม Fat but Fit อ้วนแต่ฟิต จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยพบอาการ ความดันโลหิตสูง, Cholesterol ในเลือดสูง และน้ำตาลในเลือดสูง เมื่ออายุมากขึ้น ตามมาด้วยโรคหัวใจและอาการหัวใจวาย
Prof Metin Avkiran จาก British Heart Foundation แนะนำว่าการควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงจากโรคหัวใจ
ที่มา: BBC
Wednesday, August 9, 2017
Coffee Golden Ratio อัตราส่วนและเวลาในการต้มกาแฟให้ได้รสชาดดีที่สุด
Tweet
ปัจจุบันกาแฟเป็นเครื่องดื่มยอมนิยมที่หาซื้อได้จากร้านดังหรือแผงขายเครื่องดื่มทั่วไป หลายคนชอบที่จะชงดื่มเองที่บ้าน ถ้าเป็นกาแฟสำเร็จรูปก็ค่อนข้างสะดวก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการรสชาดกาแฟแท้ๆ มักใช้กาแฟคั่วบดต้มในหม้อกาแฟ National Coffee Association USA (NCA USA) แนะ Coffee Golden Ratio อัตราส่วนและเวลาในการต้มกาแฟให้ได้รสชาดดีที่สุด ไว้ดังนี้
ปัจจุบันกาแฟเป็นเครื่องดื่มยอมนิยมที่หาซื้อได้จากร้านดังหรือแผงขายเครื่องดื่มทั่วไป หลายคนชอบที่จะชงดื่มเองที่บ้าน ถ้าเป็นกาแฟสำเร็จรูปก็ค่อนข้างสะดวก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการรสชาดกาแฟแท้ๆ มักใช้กาแฟคั่วบดต้มในหม้อกาแฟ National Coffee Association USA (NCA USA) แนะ Coffee Golden Ratio อัตราส่วนและเวลาในการต้มกาแฟให้ได้รสชาดดีที่สุด ไว้ดังนี้
Wednesday, August 2, 2017
Seated Workout สาธิตวิธีออกกำลังกายสำหรับผู้อยู่ระหว่างฟื้นฟูจากการบาดเจ็บส่วนขาและผู้พิการส่วนขา
Tweet
การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน รวมถึงผู้ที่ไม่สามารถลุกเดินได้สะดวก Clip ที่นำมาฝากพวกเราวันนี้ สาธิตวิธีออกกำลังกายสำหรับผู้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บส่วนขาหรือเข่า ไม่สะดวกต่อการลุกขึ้นยืน และผู้พิการส่วนขา
ระดับความยากของการออกกำลังกายอยู่ในระดับง่ายถึงปานกลาง ครอบคลุมวิธีออกกำลังกายเฉพาะร่างกายส่วนบนและบางท่าต้องใช้กล้ามเนื้อขาช่วย รวมถึงสามารถใช้ Dumbbells และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อยกระดับการใช้กล้ามเนื้อ ระดับการสูญเสียเหงื่อขึ้นอยู่กับความเร็วในการออกกำลัง
ขอบคุณภาพและ Clip - Seated Workout for Disabled, Injured, Rehab, or Amputee จาก YouTube และ KymNonStop YouTube Channel
การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน รวมถึงผู้ที่ไม่สามารถลุกเดินได้สะดวก Clip ที่นำมาฝากพวกเราวันนี้ สาธิตวิธีออกกำลังกายสำหรับผู้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บส่วนขาหรือเข่า ไม่สะดวกต่อการลุกขึ้นยืน และผู้พิการส่วนขา
ระดับความยากของการออกกำลังกายอยู่ในระดับง่ายถึงปานกลาง ครอบคลุมวิธีออกกำลังกายเฉพาะร่างกายส่วนบนและบางท่าต้องใช้กล้ามเนื้อขาช่วย รวมถึงสามารถใช้ Dumbbells และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อยกระดับการใช้กล้ามเนื้อ ระดับการสูญเสียเหงื่อขึ้นอยู่กับความเร็วในการออกกำลัง
ขอบคุณภาพและ Clip - Seated Workout for Disabled, Injured, Rehab, or Amputee จาก YouTube และ KymNonStop YouTube Channel
Tuesday, August 1, 2017
6 เคล็ดลับแต่งบ้านให้ดูดี
Tweet
การตกแต่งให้บ้านสวยและดูดีเป็นความต้องการของทุกคน แต่มักพบว่าหลังเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์, ซื้อเครื่องตกแต่งเพิ่ม, และรื้อทิ้งข้าวของบางส่วน สุดท้ายบ้านหรือห้องไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ เว็บไซต์ Dumb Little Man แนะนำ 6 เคล็ดลับแต่งบ้านให้ดูดี ไว้ดังนี้
การตกแต่งให้บ้านสวยและดูดีเป็นความต้องการของทุกคน แต่มักพบว่าหลังเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์, ซื้อเครื่องตกแต่งเพิ่ม, และรื้อทิ้งข้าวของบางส่วน สุดท้ายบ้านหรือห้องไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ เว็บไซต์ Dumb Little Man แนะนำ 6 เคล็ดลับแต่งบ้านให้ดูดี ไว้ดังนี้