ผลการศึกษาจากนักวิทยาศาสตร์พบว่า ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นตามขนาดของพุง ชายที่มีเอวเกิน 40 นิ้ว และหญิงที่มีเอวเกิน 35 นิ้ว เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่าคนที่มีขนาดเอวที่เล็กกว่า
นักวิทยาศาสตร์จาก International Agency for Research on Cancer (IARC) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ World Health Organisation หรือองค์การอนามัยโลก พบว่าขนาดของเอวเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงโอกาสการเกิดมะเร็งได้เช่นเดียวกับการวัดค่าดรรชนีมวลกาย (Body Nass Index หรือ BMI)
Dr Heinz Freisling จาก IARC เปิดเผยว่าความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิดและโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เพิ่มขึ้นเมื่อเพศชายมีขนาดเอวเกิน 102 เซนติเมตรหรือ 40 นิ้ว และในเพศหญิงเมื่อเอวมีขนาดเกิน 88 เซนติเมตรหรือ 35 นิ้ว
ผลการศึกษายังพบว่ารอบเอวที่เพิ่มขึ้น 11 เซนติเมตร เพิ่มโอกาสเสี่ยงการเกิดมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนประมาณ 13%
มะเร็งที่มีความสัมพันธ์กับขนาดของเอวได้แก่ มะเร็งลำไส้, มะเร็งหลอดอาหารตอนล่าง,มะเร็งกระเพาะอาหาร, มะเร็งตับ, มะเร็งถุงนำ้ดี, มะเร็งตับอ่อน, มะเร็งมดลูก, มะเร็งรังไข่, มะเร็งที่ไต และมะเร็งเต้านมหลังวัยหมดประจำเดือน
ผลการศึกษาครั้งนี้ IARC ใช้ข้อมูลจากอาสาสมัครจำนวน 43,000 คน ใช้เวลาเก็บข้อมูลติดต่อกันโดยเฉลี่ย 12 ปี ในจำนวนนี้มากกว่า 1,600 คนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคอ้วน
Dr Heinz Freisling แนะนำให้ใช้การวัดรอบเอวร่วมกับการวัดค่าดรรชนีมวลกายซึ่งบางครั้งมีค่าสูงแต่เป็นน้ำหนักซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน
ผลการศึกษาครั้งนี้ได้รับการตีพิมพ์ใน
British Journal of Cancer
ที่มา:
The Guardian และ Dailymail
