Sunday, April 30, 2017

ชม สะพานสารสิน ภูเก็ต ก่อนกลับกรุงเทพฯ



เช้าวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2017  - วันสุดท้ายของการเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้ พวกเรารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม, เก็นข้าวของและ Check Out ประมาณ 10.30 น.







หลังออกจากโรงแรมก็คือการตระเวนหาซื้อของฝากญาติมิตรเพื่อนฝูง  เริ่มจากร้านขายขนมเต้าซ้อแม่บุญธรรม(ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วกวนสไตล์ภูเก็ต),  ต่อด้วยร้านเมธีซึ่งเน้นขายเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นหลัก ได้เห็นวิธีแกะเม็ดมะม่วงหิมพานต์ซึ่งยังต้องใช้มือช่วย








จากนั้นแวะทานอาหารมือเที่ยงและเป็นมื้อสุดท้ายที่ภูเก็ตสำหรับการเที่ยวครั้งนี้ ที่ ร้าน หมี่สะปำ คุณยายเจียร  เป็นร้านขนาดใหญ่ขายอาหารพื้นเมืองภูเก็ตและของฝาก ลูกค้าค่อนข้างแน่นน่าจะเป็นเพราะตรงกับวันอาทิตย์  ร้าน หมี่สะปำ คุณยายเจียร มีอาหารให้เลือกหลากหลายชนิดมาก  อาหารรสชาดอร่อยทุกอย่างครับ









ปิดท้ายด้วยร้านขายของฝากจากภูเก็ตขนาดใหญ่  คุณแม่จู้    ของฝากที่พวกเราซื้อส่วนใหญ่จะเป็นขนมและอาหารแห้ง เพราะของที่ระลึกชิ้นใหญ่ไม่สะดวกในการนำขึ้นเครื่องบิน

 



-------------------------------------------------------------------------------------------


สถานที่เที่ยวแห่งสุดท้ายสำหรับทริปภูเก็ตครั้งนี้ก็คือสะพานเก่าแก่ของภูเก็ตที่เกิดของตำนานรักอันลือลั่น สะพานสารสิน ครับ



สะพานสารสินเป็นสะพานข้ามช่องปากพระ เชื่อมเกาะภูเก็ตบริเวณท่าฉัตรไชยกับท่านุ่น จังหวัดพังงา  ความยาวทั้งหมด 660 เมตร ตัวสะพานยาว 300 เมตร เปิดใช้เมื่อปี พ.ศ. 2510  สะพานนี้เป็นที่เกิดของโศกนาฎกรรมของหนุ่มสาวซึ่งไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเนื่องจากฐานะที่แตกต่างเป็นอุปสรรคขวางกั้นและเลือกจบชีวิตด้วยการผูกตัวติดกันแล้วกระโดดจากกลางสะพานลงสู่ท้องทะเลเมื่อปี พ.ศ. 2516

แต่สะพานปัจจุบันเป็นสะพานที่สร้างขึ้นใหม่เปิดใช้เมื่อ พ.ศ. 2554 โดยสะพานเดิมได้รับการปรับปรุงเป็นสะพานคนเดินและหอชมวิว



จริงๆ แล้วการมาเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้ผมได้เที่ยวจังหวัดพังงาด้วยนะครับ ถึงแม้จะเป็นแค่เชิงสะพานสารสินก็ตาม!




ใช้เวลาถ่ายภาพสะพานสารสินเป็นที่ระลึกพักใหญ่ ก็ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ พวกเราแวะเติมน้ำมันและคืนรถซึ่งเช่าจาก Budget ซึ่งมีบริการแถมท้ายด้วยการขับมาส่งจนถึงสนามบินภูเก็ต  เวลาขณะนั้นประมาณ 15 นาฬิกา นั่งพักยาวดื่มน้ำไปเกือบ 2 ขวดกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง Air Asia  กลับกรุงเทพฯ ประมาณ 18 นาฬิกา

เวลา 4 วัน พวกเราเที่ยวสถานที่สำคัญๆ ในภูเก็ตได้มากพอสมควร น่าจะเป็นเพราะการเช่ารถช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว บวกกับไม่ใช่ฤดูท่องเทีี่ยวและไม่ตรงกับวันหยุดยาว   ถ้ามีโอกาสเที่ยวภูเก็ตอีกครั้ง (หรือหลายครั้ง) สัญญาว่าจะนำเรื่องที่น่าสนใจมาฝากพวกเราแน่นอนครับ


Saturday, April 29, 2017

9-Minute Workout กายบริหาร 9 ท่าใน 9 นาที เรียกความฟิตให้กล้ามเนื้อทุกส่วน




New York Times  ต้นตำรับ 7-Minute Workout  ท่ากายบริหารยอดฮิตบน Internet เมื่อหลายปีก่อน แนะนำสูตรกายบริหารชุดใหม่ สำหรับเรียกความฟิตและพลังให้กล้ามเนื้อทุกส่วน  เพิ่มประสิทธิภาพ, ลดอาการบาดเจ็บ, ช่วยให้ร่างกายมีความยืดหยุ่นและเคลื่อนไหวได้คล่องตัว



Dr. Jordan Metzl  แพทย์เวชศาสตร์การกีฬาในโรงพยาบาล Hospital for Special Surgery in New York  คือผู้คิดค้นสูตร 9-Minute Workout กายบริหาร 9 ท่าใน 9 นาที โดยนำท่ากายบริหารมาจัดรวมเป็น 3 หมวดแต่ละหมวดมี 3 ท่า

การออกกำลังกายต้องเริ่มจากหมวดที่ 1 ทำ 3 ท่าต่อเนื่องกันท่าละ 1 นาที แล้วพัก 1 นาที แล้วต่อด้วยหมวดที่ 2 อีก 3 ท่าต่อเนื่องกันท่าละ 1 นาทีเช่นกัน จากนั้นพักอีก 1 นาทีก่อนจะเริ่มทำหมวดที่ 3 อีก 3 ท่า ท่าละ 1 นาที รวมเวลาทั้งหมด 11 นาที (เป็นการออกกำลังกาย  9 นาที และพักอีก 2 นาที)





กายบริหาร 9 ท่านี้จะเป็นการออกกำลังกล้ามเนื้อครบทุกส่วน  ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้งจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและมีพลังมากขึ้น


พวกเราที่ต้องการชมวิธีออกกำลังกาย 9 ท่านี้อย่างถูกต้อง เปิดดูและอ่านรายละเอียดได้จาก Video สาธิตใน New York Times 

Friday, April 28, 2017

พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว - Tai Hua Museum



ทุกครั้งที่มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ สถานที่ซึ่งผมต้องแวะก็คือห้องสมุดหรือไม่ก็พิพิธภัณฑ์  สำหรับการเที่ยวภูเก็ตคราวนี้ผมถือโอกาสเดินชม Tai Hua Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว  ครับ







พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว  หรือ Tai Hua Museum ตั้งอยู่ที่ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต  สถานที่ตั้งของพิพธภัณฑ์แห่งนี้แรกเริ่มเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกในภูเก็ต ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2477  โดยชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพมาเมื่อแปดสิบกว่าปีก่อน






พิพิธภัณฑ์ยังรักษาโครงสร้างเดิมของอาคารไว้ ลักษณะเหมือนโรงเรียนจีนในยุค 50 - 60 ปีก่อน คือด้านล่างเป็นห้องโถงสูงขนาดใหญ่ มีบันไดขี้นชั้นบนทั้งด้านซ้ายและขวาของอาคาร  สัมผัสแรกที่เข้าพิพิธภัณฑ์ทำให้นึกถึงภายในอาคารเก่าของสมาคมจีนบนถนนสาทรซึ่งเคยวิ่งเล่นสมัยเด็กๆ (ปัจจุบันถูกรื้อและสร้างเป็นอาคาร Thai CC ไปแล้ว)



ชั้นล่างด้านหน้าสุดของพิพิธภัณฑ์มีเปียโนและเวทีขนาดเล็กๆ ซึ่งเป็นสมบัติเก่าแก่ของโรงเรียน ส่วนด้านในเป็นที่แสดงสิ่งของเครื่องใช้ของคนในสมัยโบราณมากมาย ทั้งรถลาก, แร่ดีบุกซึ่งเป็นทรัพยากรหลักของภูเก็ตเมื่อหลายสิบปีก่อน ฯลฯ





ส่วนด้านบนถูกแบ่งเป็นห้องๆ นับสิบห้อง  แต่ละห้องจะมีนิทรรศการและวิดิโอ เล่าถึงความเป็นมาของโรงเรียน, เส้นทางการเดินทางจากจีนมายังภูเก็ตด้วยเรือสำเภา, วิถึชีวิตของชาวจีนในภูเก็ต, พัฒนาการทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของชาวภูเก็ต, บุคคลซึ่งมีบทบาทสำคัญในภูเก็ต ฯลฯ







พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัวเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากรู้ความเป็นมาของชาวไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ต ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความเจริญของภูเก็ตในปัจจุบันอย่างลึกซึ้ง

------------------------------------------------------------------------------------------------------




พวกเราออกจาก Tai Hua Museum ประมาณ 15 นาฬิกา  ไม่มีโปรแกรมเดินทางไปไหนอีก เพราะต้องแวะ Central Festival  เบิกเงินเตรียมไว้ซื้อของฝากญาติและเพื่อนๆ และถือโอกาสทานมื้อเย็นในห้าง
จากนั้นแวะกินน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ โกชัย เจ้าดังของภูเก็ต ก่อนกลับที่พักครับ

 




Thursday, April 27, 2017

อายุขัยของสุนัข - Lifespan of Dog




พวกเราที่ผ่านการเลี้ยงสุนัขมาหลายตัว จะเข้าใจความรู้สึกเมื่อสัตว์เลี้ยงสุดที่รักต้องจากไปเมื่อถึงอายุขัยของมัน เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าเวลา 1 ปีของเราสุนัขจะเท่ากับสุนัขอายุเพิ่มขึ้น 7 ปี อย่างไรก็ตามน้ำหนักของสุนัขจะเป็นตัวแปรของอายุขัยสุนัขให้แตกต่างกันไปบ้าง 


Sunday, April 23, 2017

Seafood สดๆ ที่ มุขดีซีฟู้ด หาดราไวย์



อาหารเย็นหลังชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ เป็นอาหารทะเลที่ มุขดีซึฟู้ด (Mookdee Seafood Restaurant) ภัตตาคารซีฟู้ดชื่อดังอีกแห่งหนึ่งในภูเก็ตครับ






มุขดีซีฟู้ด ตั้งอยู่ที่หาดราไวย์ ไม่ไกลจากแหลมพรหมเทพ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีเท่านั้น แต่เสียเวลาวนหาที่จอดรถเกือบยี่สิบนาที การจราจรค่อนข้างแออัดด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่แวะมาทานอาหารทะเล




ภัตตาคารมุขดีซีฟู้ด อยู่ห่างท่าเทียบเรือราไวย์ไม่ถึง 100 เมตร บนถนนเลียบชายหาดฝั่งหนึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและภัตตาคาร ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเรียงรายด้วยเพิงขายอาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งจับขี้นจากทะเล, และแผงขายผักผลไม้ เราสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลและนำมาให้ร้านปรุงเป็นอาหารตามเมูซึ่งมีให้เลือกมากมาย




ที่ร้านจะคิดค่าปรุงอาหารเมนูละ 100 บาทต่อน้ำหนักอาหารทะเลสด 1 กิโลกรัม  แต่ถ้า 1 กิโลกรัมแบ่งทำ 2 เมนูจะคิดราคารวม 150 บาท และถ้าน้ำหนักอาหารทะเลครึ่งกิโลกรัมจะคิดเมนูละ 75 บาท




อาหารทะเลสดที่พ่อค้าแม้ค้าขายถูกกว่าราคาตามท้องตลาด (ถ้าเป็นคนไทยซื้อนะครับ ส่วนชาวต่างประเทศจะเป็นอีกราคาหนึ่งที่แพงกว่า)





วันนั้นพวกเราซื้อกุ้ง 1 กิโลกรัมแบ่งทำอาหาร 2 เมนูคือ กุ้งอบวุ้นเส้น, และกุ้งอบเกลือ, ส่วนปลากระพงน้ำลึกให้ทอดน้ำปลา และปลาหมึกนำมานึ่งมะนาว ทุกเมนูรสชาดดีมากด้วยความสดของอาหารทะเลและฝีมือของที่ร้าน





ค่าปรุงอาหาร, ข้าวเปล่า, น้ำอัดลม, น้ำแข็ง รวม 570 บาท บวกกับค่าอาหารทะเล มื้อเย็นสุดอร่อยของพวกเราอยู่ที่ประมาณ 1,200 บาทเท่านั้น


พวกเราออกจากร้านมุขดีประมาณสองทุ่มครึ่ง ขับรถประมาณชั่วโมงเศษๆ จากปลายเกาะไปถึงที่พักซึ่งอยู่เกือบหัวเกาะภูเก็ต  คืนนั้นหลับสนิทจนถึงเช้าเพราะความเพลียครับ




สักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดไชยธารามหรือวัดฉลอง ภูเก็ต



เช้าวันที่ 25 มีนาคม 2017  พวกเราตื่นค่อนข้างสายเพราะความเพลียจากการปีนๆ ป่ายๆ ทั้งหอคอยชมวิวเขาขาด, พุทธอุทยานยอดเขานาคเกิด, จุดชมวิวกะรน และปิดท้ายด้วยจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพ   หลังทานอาหารเช้าที่โรงแรมก็ออกเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และไหว้หลวงพ่อแช่ม ที่วัดไชยธารามหรือวัดฉลอง ครับ


Buffet มื้อเช้าที่โรงแรม Proud Phuket ถึงจะมีอาหารให้เลือกน้อยชนิดกว่า (เนื่องจากเป็นโรงแรมขนาดเล็ก) แต่ปริมาณที่จัดเตรียมไว้เหลือเฟือ ส่วนรสชาดก็ไม่ต่างจากมาตรฐาน Buffet มื้อเช้าของทุกโรงแรมคือรสกลางๆ ถ้าใครชอบรสจัดต้องอาศัยเครื่องปรุงช่วย




---------------------------------------------------------------------------------


พวกเราออกเดินทางประมาณ 10.30 น. แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าท่าเรือ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในภูเก็ตมีพระโป้เส่งไต่เต่ (หงอ จินหยิน) เป็นพระประธานที่ชาวภูเก็ตเลื่อมใสและนับถือว่าเป็นเทพเจ้าที่มีความสามารถในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ  

ศาลเจ้าแห่งนี้มีเนื้อที่กว้างขวางใหญ่โตมาก  ผู้ดูแลศาลเจ้าบอกว่าเมื่อถึงเทศกาลกินเจศาลเจ้าจะมีงานทำบุญและมีผู้เลื่อมใสมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมาก







------------------------------------------------------------------------------------------------------


จากศาลเจ้าท่าเรือใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาที  ก็ถึงวัดไชยธารามหรือวัดฉลองแล้วครับ

วัดไชยธารามหรือวัดฉลอง ตั้งอยู่ที่ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เป็นวัดเก่าแก่กว่า 200 ปี และงดงามที่สุดในภูเก็ต  ภายในวัดเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา   นอกจากนี้ยังรูปหล่อจำลองของหลวงพ่อแช่ม ซึ่งเป็นอดีตเจ้ัาอาวาสวัดฉลองที่ชาวภูเก็ตนับถือเลื่อมใสมานับร้อยปี




ภายในวัดฉลองเต็มไปด้วยชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่แวะมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุและไหว้รูปหล่อจำลองหลวงพ่อแช่ม  เสียงประทัดด้งต่อเนื่องแทบไม่ขาดสาย  นอกจากไหว้หลวงพ่อแช่มแล้ว ยังเป็นสิริมงคลสำหรับพวกเราที่ได้มีโอกาสสักการะพระบรมสารีริกธาตุอย่างใกล้ชิดครับ