Monday, October 31, 2016

MuscleWiki สุดยอดคู่มือ แบบ Interactive สำหรับ Exercise และ Stretching



ปัจจุบันการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ  เนื่องจากเป็นวิธีออกกำลังกายที่สามารถทำโดยลำพัง เหมาะกับสภาพสังคมเมืองที่ชีวิตค่อนข้างเร่งรีบ
การออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อไม่จำเป็นต้องทำในสถานออกกำลังกายหรือ ฟิตเนส แต่สามารถออกกำลังที่บ้านโดยใช้อุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่างเช่น Dumbbell ฯลฯ



MuscleWiki คือคู่มือแบบ Interactive สำหรับผู้สนใจหรือต้องการศึกษาเรียนรู้การออกกำลังเสริมสร้างและเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ระหว่างอยู่ที่บ้านหรือไม่มีครูฝึก และเป็นคู่มือวิธี Stretch หรือยืดเหยียดผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย



Interactive ของ MuscleWiki  อธิบายวิธีออกกำลังกล้ามเนื้อและวิธียืดเหยียดผ่อนคลายกล้ามเนื้อแต่ละส่วนของร่างกาย หลายๆ วิธี ด้วยภาพ Animation พร้อมคำอธิบาย โดยสามารถเลือกวิธี พร้อมภาพ Exercise และ Stretching ทั้งชายและหญิง



นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือคำนวณตัวเลขสุขภาพ เช่น

1. Carorie Calculator สำหรับคำนวณจำนวนแคลอรี่ที่เหมาะสำหรับแต่ละคนโดยประเมินจากเพศ, อายุ, ความสูง, น้ำหนักตัว, การใช้ชีวิต, และเป้าหมายในการทำน้ำหนักตัว



2. Macro Calculator สำหรับคำนวณปริมาณไขมัน, โปรตีน และคาร์โบไฮเดร็ต ในแต่ละมือ/วัน โดยประเมินจากปริมาณแคลอรี่ที่ต้องการ และวิธีบริโภคอาหารของแต่ละคน



MuscleWiki  เป็นคู่มือ Interactive สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนรู้การออกกำลังเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และผู้กำลังมองหาวิธียืดเหยียดผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน  มีให้เลือก Download ได้ฟรี สำหรับ Smartphone Android,  iPhone และจากหน้า Website ซึ่งจะมีข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์กว่า จาก App ใน Smartphone ซึ่งอยู่ระหว่างการ Update เพิ่มความสามารถ

Muscle Wiki  (Free) | iTunes App Store
Muscle Wiki  (Free) | Google Play
Muscle Wiki  (Free) | Website


Sunday, October 30, 2016

Rapunzel Syndrome ทั่วโลกมีผู้ป่วยโรคนี้เพียง 88 คน


 Image Credit:  Leyth Via Wikimedia

Rapunzel Syndrome ชื่อที่แทบไม่เคยได้ยินนี้  เป็นอาการของโรคชนิดหนึ่งซึ่งทั่วโลกพบผู้มีอาการป่วยเพียง 88 คนเท่านั้น

สุภาพสตรีวัย 38 ปีเข้ารักษาอาการท้องผูก, อาเจียนไม่หยุดและรับประทานอาหารไม่ได้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐ Arizona ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัญหารับประทานอาหารไม่ค่อยได้เกิดกับหญิงที่ไม่เปิดเผยชื่อผู้นี้มาประมาณหนึ่งปี ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลง 15 ปอนด์ภายใน 8 เดือน


แพทย์ให้เลือดเมื่อตรวจพบว่าเธอมีอาการโลหิตจาง และส่งเข้าห้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหากระเพาะอาหารบวมเนื่องจากอัดแน่นไปด้วยแก๊สและของเหลว  สิ่งที่แพทย์พบก็คือเส้นผมก้อนกลมขนาด 6 นิ้ว x 4 นิ้ว (15 เซนติเมตร x 10 เซนติเมตร) และยังพบเส้นผมก้อนเล็กขนาด 1.5นิ้ว x 1 นิ้ว (4 เซนติเมตร x 3 เซนติเมตร) ในลำไส้เล็ก

แพทย์ประสพความสำเร็จในการนำเส้นผมออกจากกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก และเร่งให้สารอาหารเพื่อฟื้นฟูสุขภาพของเธอ  พร้อมเปิดเผยว่าอาการป่วยนี้เรียกว่า  Rapunzel Syndrome หรือการกินเส้นผมตนเอง (น้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ไม่สามารถย่อยเส้นผม)

ผู้ป่วยโรค Rapunzel Syndrome จะมีอาการสำคัญ 2 อย่างสืบเนื่องกันคือ

  • Trichotillomania - ต้องการถอนเส้นผมของตนเองอยู่ตลอด
  • Trichophagia - ต้องการกินเส้นผมของตนเอง

แพทย์ตรวจพบว่าผู้ป่วยบางราย จะมีเส้นผมของตนเองเกาะกันเป็นเส้นยาวจากกระเพาะอาหารผ่านลำไส้เล็กไปจนถึงลำไส้ใหญ่

ตามสถิติ ปัจจุบันมีผู้มีอาการป่วยลักษณะนี้เพียง 88 คนทั่วโลก

ชื่อ Rapunzel  Syndrome มีที่มาจากนิทานสำหรับเด็ก เล่าถึงสาวงามผมยาวชื่อ Rapunzel ถูกแม่มดขังไว้ในหอคอย เส้นผมของเธอถูกใช้เป็นเชือกสำหรับแม่มดในการขึ้นหอคอยและในที่สุดเป็นก็เป็นเชือกให้เจ้าชายพาเธอหนีจากหอคอยได้สำเร็จ


ที่มา: BBC



    Saturday, October 29, 2016

    ความเหงา (Loneliness) เป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่กลายเป็นความเหงาเรื้อรัง


     Image Credit: Cameron Stow


    ความเหงาเป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปได้ยากและที่สำคัญ ความเหงามักมาพร้อมความเศร้าหรือความเจ็บปวดลึกๆ ในจิตใจ  ไม่มีใครสามารถหลีกพ้นจากความรู้สึกนี้แต่สามารถควบคุมและจัดการได้


    Maike Luhmann จากมหาวิทยาลัย Cologne ประเทศเยอรมนี ให้คำจำกัดความของความเหงา หรือ Loneliness ว่าความเหงาเป็นเพียงอาการหรือ Signal ปกติอย่างหนึ่งที่ร่างกายแสดงออกมา เหมือนความหิว, กระหายน้ำ ฯลฯ เป็นอาการที่เตือนให้รู้ว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง


    ความเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือความต้องการมี Social interaction หรือการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม  ความเหงาเป็นอาการเตือนที่สภาพจิตใจสื่อถึงเรา สิ่งสำคัญที่สุดก็คือรีบติดต่อกับสังคมของเรา ไม่ว่าจะเป็นญาติมิตร เพื่อนฝูงที่ Share ความรู้สึกกันได้ อาจเป็นการพูดคุยหรือนัดพบปะสังสรรค์ ฯลฯ


    การละเลยหรือปล่อยให้ความเหงาครอบงำจิตใจเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดความเหงาเรื้อรัง (Chronic loneliness) ไม่สามารถ Share ความรู้สึกกับคนใกล้ชิดได้เหมือนเดิม ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายได้


    วิธีคลายเหงาของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เพราะ Social interaction หรือปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ของแต่ละคนแตกต่างกัน และที่สำคัญที่สุด  Maike Luhmann บอกว่า คนที่ชอบสันโดษใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังไม่จำเป็นต้องเกิดความเหงาเสมอไป   คนที่อยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูงและเสียงหัวเราะแต่รู้สึกเหงาสุดๆ ก็มีอยู่มากมาย



    ที่มา: Lifehacker





    ปกป้องผิวด้วย มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) สำหรับฤดูหนาวที่กำลังมาเยือน

    Moisturizer หรือ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ คือสารทาภายนอกที่ช่วยเพิ่มหรือรักษาระดับความชุ่มชื้นของผิวหนัง ปัจจุบันมีการใช้ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ กันอย่างกว้างขวางทั้งเพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวแตกในฤดูหนาว และในผู้มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบในยา, เครื่องสำอาง และเวชสำอาง หลายๆ ชนิด มีให้เลือกใช้ในรูป ขี้ผึ้ง, ครีม, เจล, โลชั่น ฯลฯ

    ปกติร่างกายของเราจะมีการคายความชุ่มชื้นเพื่อหล่อเลี้ยงผิวหนังอยู่ตลอดเวลา กระบวนการนี้มีชือทางวิทยาศาสตร์ว่า Transepidermal water loss (TWL หรือ TEWL) หรือการคายน้ำหรือความชื้นผ่านผิวหนังส่วน Dermis หรือหนังแท้ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ในฤดูหนาวอากาศมีความแห้งเป็นพิเศษ การสูญเสียความชื้นจะส่งผลให้ผิวหนังเกิดการแตกเกิดอาคารแสบและคัน   Moisturizer ก็คือสารที่เข้ามาทำหน้าที่ปกป้องรักษาระดับความชุ่มชื้นของผิวหนัง


    Moisturizer หรือ มอยส์เจอร์ไรเซอร์


    มอยส์เจอร์ไรเซอร์ มีส่วนประกอบสำคัญๆ 3 อย่าง ซึ่ง Moisturizer ที่เราใช้อยู่อาจมีเพียงส่วนประกอบเดียว หรือมีส่วนประกอบหลายชนิดอยู่ด้วยกันก็ได้



    1.  Occlusives คือ สารที่ถูกนำมาใช้เป็น Moisturizer ชนิดแรก Occlusives ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มบางๆ เคลือบผิวหนังป้องกันไม่ให้ความชื้นที่ผิวหนังระเหยไป   คุณสมบัตินี้ทำให้ Occlusives มีประสิทธิภาพในการรักษาความชื้นที่ผิวหนังได้ถึง 98%  ข้อด้อยของ Occlusives ก็คือเมื่อโดนน้ำก็จะละลายหรือหลุดทำให้ต้องทาซ้ำอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้มัเหนอะหนะ ผิวหนังที่ใช้สาร Occlusives เปื้อนฝุ่นละอองได้ง่าย และผู้ใช้จะรู้สึกรำคาญ   ตัวอย่างของ Occlusives ที่รู้จักกันทั่วไปเช่น Petrolatum Gel ฯลฯ
     

    2.  Emollients คือ สารตัวใหม่ที่ยังคงทำหน้าที่เคลือบผิวหนัง มีโครงสร้างใกล้เคียงกับ Occlusives แต่ถูกพัฒนาให้สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวหนัง  โครงสร้างของผิวหนังชั้นนอกของมนุษย์ใกล้เคียงกับการก่ออิฐถือปูน (Brick-and-mortar)  โดย Cell ที่ตายแล้วเชื่อมต่อกันด้วยโปรตีนเปรียบได้กับอิฐ ในขณะที่ ไขมัน เปรียบได้กับปูนหรือคอนกรีต เรียงตัวเป็นชั้นทำหน้าป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย  เมื่อความชื้นลดลงโปรตีนที่เชื่อม Cell ที่ตายแล้วบางส่วนจะหลุดออกจากกันทำให้ผิวหนังเกิดรอยแตก  Emollients จะซึมสู่ชั้นผิวหนังควบคุมระดับความชื้น ทำให้ผิวหนังของเรากลับสู่สภาวะปกติ  ตัวอย่างของ Emollients ก็คือ Lotion สูตรปกติทั่วๆ ไป




    3.  Humectants  สารที่ใช้ใน Moisturizer ชนิดนี้มีคุณสมบัตืจับน้ำหรือความชื้นบนผิวหนังไม่ให้ระเหยทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นขึ้น และช่วยทดแทนผิวหนังที่แตกด้วย Cell ใหม่ที่ชุ่มชื้นกว่า  ตัวอย่างของสารที่มีคุณสมบัติของ  Humectant ได้แก่ น้ำผึ้ง, เจลจากว่านหางจรเข้,  Propylene glycol ฯลฯ




    ปัจจุบันยังมีการเพิ่มสารชนิดอื่นๆ ใน Moisturizer เช่น วิตามินหลายๆ ชนิด เช่น Vitamin C, Vitamin E ที่มีผลในการบำรุงผิว รวมถึงสารอื่นๆ เพื่อช่วยปกป้องผิวเช่น สารกันแดด ฯลฯ

    เพื่อสุขภาพผิวอย่าลืมเลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะกับสภาพผิวและบริเวณที่จะใช้ เพื่อรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้

    ที่มา: Lifehacker







    เทคนิคการแคะกระปุก!



    สมัยเด็กๆ ผมมีหน้าที่ต้องหยอดกระปุกอย่างน้อยวันละ 25 สตางค์ บางครั้งอยากซื้อหนังสือการ์ตูน ก็อาศัยแคะกระปุกด้วยกิ๊บติดผมของพี่สาวบ้างของคุณแม่บ้าง  กว่าจะได้บาทสองบาทก็ยากพอดู    ถึงเวลานี้ผมก็ยังมีกระปุกไว้หยอดเศษเหรียญที่พ่อค้าแม่ค้าทอนให้เวลาซื้อของ แต่ไม่ต้องแคะกระปุกเวลาต้องใช้เหรียญแล้วเพราะเลือกกระปุกที่เปิดท้ายได้!

    พวกเราที่ยังใช้การหยอดกระปุกเพื่อเก็บเหรียญเหลือใช้แต่เป็นกระปุกที่ไม่สามารถเปิดได้ ถ้าเกิดจำเป็นต้องแคะกระปุกเพื่อใช้เศษเหรียญ  Clip ที่นำมาฝากคงมีประโยชน์แน่ เพราะเป็นเทคนิคการแคะกระปุกครับ ง่ายอย่างนี้อย่าทำบ่อยนะครับเดี๋ยวจะไม่เหลือเศษเหรียญติดบ้าน

    ชม Clip - How to get Money out of a Piggy Bank without Breaking it ครับ


    Thursday, October 27, 2016

    สาเหตุของ Wrinkles หรือรอยย่น, รอยเหี่ยว, ตีนกา, ริ้วรอย และวิธีป้องกัน


    Image Credit: BBC iWonders


    ผิวหนังคืออวัยวะภายนอกของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุด เป็นด่านป้องกันอวัยวะสำคัญภายในร่างกายจากปัจจัยภายนอกไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค, อุณหภูมิ, สภาพแวดล้อม  เมื่ออายุมากขึ้นความยืดหยุ่นของผิวหนังก็จะยิ่งลดลง  ส่งผลให้เกิด Wrinkles หรือรอยย่น, รอยเหี่ยว, ตีนกา  และริ้วรอยต่างๆ

    ถึงจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามวัย แต่ รอยย่น, รอยเหี่ยว และริ้วรอย ก็ทำให้คนที่อายุย่างเข้าวัยผู้ใหญ่เต็มตัวเป็นกังวล, ขาดความมั่นใจในตนเอง ปัจจุบันความรู้ทางวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายสาเหตุของการเกิดรอยย่น หรือ Wrinkles รวมถึงแนะนำวิธีคงสภาพผิวหนังเต่งตึงให้อยู่กับเราได้นานที่สุด



    โครงสร้างของผิวหนังกับสาเหตุการเกิด Wrinkles หรือรอยย่น, รอยเหี่ยว, ตีนกา

    ผิวหนังของเราประกอบด้วยโครงสร้างสำคัญ 4 ส่วนคือ
    1. Epidermis หรือ หนังกำพร้า คือผิวหนังด้านนอกสุดซึ่งเป็นส่วนแข็งแรงทนทานที่สุด เปรียบเหมือนด่านป้องกันด่านแรกไม่ให้อวัยวะสำคัญภายในร่างกายเป็นอันตรายจากปัจจัยภายนอกเช่นเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา ฯลฯ ผิวหนังส่วน Epidermis มีอายุประมาณ 60 วัน ระบบในร่างกายจะสร้าง Cell ทดแทนจากด้านในแล้วดันส่วนที่หมดอายุให้หลุดลอกออกไปในสภาพเศษผิวหนัง แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราจะใช้เวลานานขึ้นในการสร้าง Cell ใหม่ทดแทน เป็นหนึ่งในสาเหตุของริ้วรอยที่เห็นได้ชัดมากขึ้นตามวัย
    2. Dermis หรือหนังแท้ คือผิวหนังด้านในซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ในการเกิด Wrinkles หรือรอยย่น, รอยเหี่ยว, ตีนกา  และริ้วรอย  ผิวหนังส่วนนี้มีเส้นเลือดจำนวนมากหล่อเลี้ยง  Dermis มีส่วนประกอบของ คอลลาเจน (Collagen) และ เส้นใยที่มีความยืดหยุ่นสูง (Elastic Fibre) ช่วยรักษาผิวหนังให้เต่งตึงและปราศจากริ้วรอย  เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลง บวกกับจำนวนไขมันในเนื้อเยื่อของผิวหนังที่ลดลงด้วย ส่งผลให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังเกิดรอยย่น, รอยเหี่ยว   
    3. Collagen คอลลาเจนคือส่วนประกอบสำคัญของ Dermis ที่ช่วยให้ผิวหนังมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น โดยจะสานตัวกันเป็นเครือข่ายแบบ 3 มิติ อยู่ในชั้น Dermis  ร่างกายของคนสุขภาพดีทั่วไปจะสร้าง Collagen ในปริมาณที่เพียงพอไปจนถึงอายุ 40 ปี หลังจากนั้นกระบวนการสร้าง Collagen จะลดลงอย่างรวดเร็ว
    4. Fibroblasts เปรียบเสมือนโรงงานผลิต Collagen และไฟเบอร์อื่นๆ ในวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว Fibroblasts จะยึดโยงอยู่กับ Collagen อย่างแน่นหนา ทำให้เมื่อสัมผัสผิวหนังจะรู้สึกตึงและเด้งไม่อ่อนยวบ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณ Collagen ที่สร้างจาก Firbroblasts ลดลง ทำให้การยึดโยงระหว่าง Fibroblast กับ Collagen เริ่มหลุดจากกัน เป็นสาเหตุของ รอยย่น, รอยเหี่ยว ที่มีขนาดลึกขึ้น

    สาเหตุของการเกิด Wrinkles หรือรอยย่น, รอยเหี่ยว, ตีนกา

    ปัจจัยสำคัญของการเกิด รอยย่น, รอยเหี่ยว, ตีนกา ก็คือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามวัย  ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้สามารถใช้ศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหารอยย่น แต่ก็ได้ผลเพียงชั่วคราวและไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ 100%   วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการหมั่นดูแลรักษาสุขภาพผิว, รักษาสุขภาพให้แข็งแรง, ออกกำลังกายเป็นประจำ, พักผ่อนให้เพียงพอ, งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ฯลฯ

    การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและอาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยยืดวัยหนุ่มสาวให้อยู่กับเราได้นานขึ้น  เช่น มะเขือเทศมีสาร Lycopene จำนวนมากซึ่งเป็นสารต้านกระบวนการสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย, ปลาทะเลที่มีสาร Omega3 ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ และอาการอักเสบใน Cell ผิวหนัง ฯลฯ

    นอกจากนี้ แสงแดด ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของริ้วรอย และรอยย่น รอยตีนกา  รังสี UVB จะทำให้ผิวหนังส่วนบนเกิดรอยไหม้และเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง ในขณะที่รังสี UVA สามารถทำลายผิวหนังชั้นในและทำอันตรายต่อ Collagen ได้ด้วย ที่สำคัญ รังสี UVA สามารถทะลุทะลวงผ่านกระจก ทำให้ทุกคนล้วนเสี่ยงต่อผิวหนัง เหี่ยวย่นแม้จะไม่โดนแดดตรงๆ วิธีป้องกันก็คือการใช้ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันทั้งรังสี UVB และ UVA


    ที่มา: BBC iWonders


    Tuesday, October 25, 2016

    3 มายากลปากกา ที่ฝีกได้ด้วยตนเอง - 3 Incredible Pen Magic Tricks



    มายากลก็คือวิธีที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกหรือเชื่อว่าภาพลวงตาที่เห็นอยู่เป็นเรื่องจริง ซึ่งผู้เล่นต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก เพื่อให้ดูแนบเนียนที่สุด

    เคล็ดลับการเล่นมายากลที่นำมาฝากพวกเราวันนี้ เป็นมายากลง่ายๆ ที่สามารถฝึกด้วยตนเองเพื่อโชว์ความสามารถในหมู่เพื่อนฝูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ ซึ่งมักจะนิยมดูมายากลแทบทุกคน

    3 Incredible Pen Magic Tricks สาธิตการเล่นมายากลปากกา 3 แบบคือ  Vanish หรือเสกให้ปากกาหายไป, Production  เสกปากกาจากมือเปล่า และ Shrink ทำให้ปากกาหดหรือยืดด้วยมือของเรา 

    Clip อธิบายและสาธิตวิธีเล่นกล 3 แบบ อย่างละเอียด พวกเราที่อยากแสดงความสามารถของนักมายากลสมัครเล่น ชมจาก Clip และฝึกตามสักพักก็คงทำได้ ส่วนจะแนบเนียนขนาดไหนคงขึ้นอยู่กับความไวของมือและพรสวรรค์ของแต่ละคนครับ


    Saturday, October 22, 2016

    ไม่ควรแช่มะเขือเทศสดในตู้เย็น นักวิทยาศาสตร์พบทำให้รสเปลี่ยนไป


    Taken byfir0002 | flagstaffotos.com.auCanon 20D + Sigma 150mm f/2.8 (Own work) [GFDL 1.2], via Wikimedia Commons

     
    Harry Klee และทีมนักวิทยาศาสตร์จาก University of Florida เผยผลวิจัยการแช่มะเขือเทศในตู้เย็น พบว่ามะเขือเทศจะเสียความอร่อยไป แนะนำให้เก็บมะเขือเทศไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ

    Monday, October 17, 2016

    9 Easy Table Manners - เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับอาหารมื้อเย็นอย่างเป็นทางการ



    อาหารมื้อเย็นอย่างเป็นทางการเช่นในงานมงคลสมรส, งานเลี้ยงรับรองแขก อาจเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับหลายๆ คน ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจทำให้ดูเหมือนผิดมารยาทโดยไม่ตั้งใจ

    Lifehacker แนะนำ 9 เคล็ดลับง่ายๆ สำหรับอาหารมื้อเย็นอย่างเป็นทางการ ไว้ดังนี้ครับ

    Saturday, October 8, 2016

    กรรมวิธีการผลิตเนยถั่วหรือ Peanut Butter



    Peanut Butter

    Peanut Butter หรือเนยถั่วเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากชนิดหนึ่ง ถึงจะชื่อเนยถั่ว แต่ Peanut Butter ไม่มีส่วประกอบของเนยแม้แต่น้อย  โดย 90% เป็นถั่วลิสงหรือถั่วลิสงประมาณหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเมล็ดต่อ Peanut Butter ขวดขนาด 500 กรัม ส่วนที่เหลืออีก 10% ประกอบด้วยน้ำมันพืชและน้ำตาล, น้ำผึ้ง, หรือสารให้ความหวานชนิดอื่นๆ  

    พวกเราที่ชอบ Peanut Butter และอยากทราบว่าเนยถั่วมีกรรมวิธีในการผลิตอย่างไร  Clip ที่นำมาฝากมีคำตอบให้ครับ


    Friday, October 7, 2016

    50 ท่า Ball Exercises เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ตั้งแต่ระดับง่ายไปถึงยาก




    Ball Exercises คือการออกกำลังกาย โดยมีลูกบอลที่เรียกว่า Exercise Ball หรือ Swiss Ball  เป็นอุปกรณ์ประกอบสำคัญ



    ในระยะแรก Ball Exercises ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ป่วยที่ต้องมีการทำกายภาพบำบัด โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น, ความสามารถในการทรงตัว และเพิ่มกำลังให้ผู้ป่วย ต่อมาได้มีการประยุกต์นำ Ball Exercises  มาใช้ร่วมกับ Bodyweight Exercises  หรือการออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักร่างกายผู้ออกกำลังเป็นตัวต้านทานการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อ, ความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพการทรงให้ร่างกาย โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม

    การนำ Ball Exercises  มาใช้ร่วมกับ Bodyweight Exercises ช่วยให้ใช้แรงน้อยลง, ลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บ โดยมีประสิทธิภาพไม่ต่างจาก Bodyweight Exercises แบบเดิม และเมื่อฝึกจนเชี่ยวชาญก็สามารถพัฒนา Ball Exercises เป็นการออกกำลังกายแบบยากๆ ที่การบริหารร่างกายปกติทำไม่ได้  ที่สำคัญ Ball Exercises ยังสามารถประยุกต์ให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ออกกำลังกายอื่นๆ เช่น Dumbbell ฯลฯ

    ข้อดีของ Ball Exercises ก็คือราคาไม่แพง, พกพาได้สะดวก, ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย, สามารถใช้เพื่อกายออกกำลังกายกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้แทบทุกส่วนของร่างกาย

    Fitness Tips ที่นำมาฝากพวกเราคือ  Chart การออกกำลังกายด้วย Ball Exercises ตั้งแต่ระดับง่าย, ปานกลาง และยาก รวม 50 ท่า ครอบคลุมกล้ามเนื้อหลักๆ แทบทุกส่วน และชม Chart ฉบับสมบูรณ์ที่ Stack52  พร้อม Link เพื่อชม Video สาธิต Ball Exercises ทุกท่า  ครับ





    Thursday, October 6, 2016

    นักวิทยาศาสตร์พบ ความชอบอาหารมันๆ อยู่ในยีนส์





    ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Cambridge ประเทศอังกฤษ พบว่ารสนิยมชอบอาหารที่มีปริมาณไขมันสูงอยู่ในยีนส์ที่ทำงานผิดปกติของบางคน ทำให้คนกลุ่มนี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน


    Prof Sadaf Farooqi หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Wellcome Trust Medical Research Council Institute of Metabolic Science at the University of Cambridge ประเทศอังกฤษ ทำการวิจัยโดยให้อาสาสมัครเลือกรับประทานแกงไก่และของหวานประเภทพุดดิ้งอย่างไม่จำกัดปริมาณ  แกงไก่มีให้เลือกทั้งประเภทที่มีความมันเป็นพิเศษและที่มีความมันไม่มาก ในขณะที่พุดดิ้งก็มีให้เลือกทั้งที่หวานมากและหวานน้อย  และพบว่าคนกลุ่มที่มียีนส์ชื่อว่า MC4R ที่ทำงานบกพร่องจะเลือกรับประทานแกงไก่ที่มีความมันเป็นพิเศษและในปริมาณมากกว่าคนทั่วไป

    ขั้นตอนการวิจัยเริ่มโดยการปรุงแกงไก่ 3 แบบคือมันมาก, มันปานกลาง และมันน้อย  ส่วนพุดดิ้งก็มีให้เลือก 3 แบบเช่นกันคือหวานมาก, หวานปานกลาง และหวานน้อย จากนั้นให้อาสาสมัครชิมแกงไก่และพุดดิ้งทุกรส จากนั้นให้อิสระในการเลือกรับประทานทั้งแกงไก่และพุดดิ้งตามชอบโดยไม่จำกัดปริมาณ  และพบว่าคนที่เลือกกินแกงที่มันเป็นพิเศษส่วนใหญ่มียีนส์ MC4R ที่บกพร่องและเลือกกินพุดดิ้งที่หวานน้อย

    ศาสตราจารย์ Sadaf Farooqi  อธิบายว่าสาเหตุที่คนมียีนส์ MC4R ที่บกพร่องเลือกพุดดิ้งหวานน้อย เนื่องจากยีนส์ MC4R ที่บกพร่องต้องการสะสมไขมันในร่างกาย และไขมันจากแกงไก่ให้พลังงานมากกว่าน้ำตาลในพุดดิ้ง การทดสอบครั้งนี้ยังทำให้ทราบว่าสมองของเราไม่เพียงสามารถแยกแยะรสชาดเท่านั้นแต่ยังสามารถแยกแยะสารอาหารอีกด้วย

    ศาสตราจารย์ Sadaf Farooqi เปิดเผยว่าในหนึ่งพันคนคาดว่าจะมีหนึ่งคนที่ยีนส์ MC4R ทำงานบกพร่อง  ในคนปกติยีนส์ตัวนี้จะควบคุมความอยากอาหารและกระหายน้ำรวมถึงการเผาผลาญ Calories โดยสามารถปรับระบบให้เรารับประทานมากขึ้นและปรับให้ร่างกายสะสมไขมันเมื่อเจอกับสภาวะอดอยากหรือขาดแคลนอาหาร    ศาสตราจารย์ Sadaf Farooqi  ให้กำลังใจผู้ที่มียีนส์ MC4R ผิดปกติว่าไม่จำเป็นต้องกลายเป็นคนอ้วนเสมอไปเพราะการควบคุมอาหารและออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและห่างไกลจากโรคอ้วน

    ที่มา: BBC


    Monday, October 3, 2016

    5 เคล็ดลับการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น



    ปัจจุบันภาษาที่ 2 , ที่ 3  กลายเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่เพียงจะช่วยให้เราเข้าใจสังคม, ประเพณี ของประเทศอื่นๆ แล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้อาชีพการงานและธุรกิจมีโอกาสเจริญก้าวหน้า  ที่สำคัญการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ยังมีประโยชน์ต่อสมอง อาจช่วยป้องกันปัญหาโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้อีกด้วย

    ปกติแล้วการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ เป็นเรื่องยากสำหรับทุกคนอยู่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ใหญ่  ซึ่งความยากหรือง่ายเกิดจาก 2 ส่วนสำคัญคือ ความยากง่ายของตัวภาษา และความคุ้นเคย, ความใกล้ชิดของภาษาใหม่ที่จะเรียนกับภาษาของตนเอง