Friday, June 28, 2013

จัดระเบียบในตู้เย็น - The Organized Fridge



ทุกวันนี้ตู้เย็นก็คล้ายๆ กับตู้กับข้าวนั่นเอง  ในตู้เย็นจะมีทั้งเครื่องดื่ม อาหารสด อาหารแห้ง อาหารที่กินไม่หมด ผลไม้  ฯลฯ  Tips ที่นำมาฝากพวกเราวันนี้เป็นวิธีการดูแลตู้เย็นเพื่อให้อาหารในตู้เย็นคงความสดและไม่เสียง่ายครับ

1. อุณหภูมิในตู้เย็นควรอยู่ที่ 40℉ (5℃) หรือต่ำกว่านั้นเพื่อให้แบคทีเรียเติบโตช้าทำให้อาหารอยู่ได้นานขึ้น

2.  ชั้นหรือลิ้นชักในตู้เย็นต้องแห้งปราศจากความชื้น

3.  อาหารที่ทานไม่หมดควรบริโภคให้หมดภายใน 4 วัน ควรบรรจุในภาชนะใส เพื่อมองเห็นอาหารได้ง่าย

4.  แยกประเภทอาหารเช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไว้คนละชั้นหรือลิ้นชัก ช่วยยืดอายุอาหารและป้องกันเชื้อโรคจากเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ได้ปรุงติดไปยังผลไม้ที่รับประทานโดยไม่ต้องปรุง

5.  อย่าวางนมและอาหารที่เสียง่ายไว้ที่ชั้นของประตูตู้เย็น เนื่องจากอุณหภูมิความเย็นไม่คงที่  อาหารประเภทนมควรวางไว้ที่ชั้นกลางของตู้เย็น

6.  เนื้อสัตว์ดิบและอาหารทะเลควรห่อให้มิดชิดและไว้ที่ชั้นซึ่งมีถาดรองเพื่อป้องกันของเหลวไหลไปโดนอาหารประเภทอื่น

7.  ไม่ควรแช่ของจนแน่นตู้เย็น ควรมีที่ว่างให้การถ่ายเทความเย็นทั่วถึงทั้งตู้เย็น

8.  ไม่ควรหั่น, เด็ด, อาหารที่ยังไม่คิดจะบริโภค เพราะทำให้เสียง่ายและคุณค่าอาหารลดลง

9.  หมั่นจัดข้าวของในตู้เย็น  จัดวางของเดิมไว้ด้านนอก เพื่อป้องกันของเหลือที่หมดอายุในตู้เย็น

10.  หมั่นทำความสะอาดตู้เย็น เก็บอาหารที่หมดอายุออกจากตู้เย็น เพื่อเพิ่มพื้นที่ในตู็เย็นและป้องกันการบริโภคอาหารที่หมดอายุโดยไม่ตั้งใจ

ที่มา:  Lifehack

Thursday, June 20, 2013

จุดประสงค์และข้อดีข้อเสียของ Computer Feet



Computer Feet ที่พวกเราหลายๆ คนชอบใช้เพื่อปรับระดับความลาดของ Keyboard  จุดประสงค์ที่แท้จริงไม่ได้เพื่อให้ถูกหลักการยศาสตร์ (ergonomics)  แต่ประดิษ์ขึ้นเพื่อให้สามารถมองแป้น Keyboard ได้ชัดเจนขึ้น

BakkerElkhuizen ผู้ผลิต keyboard เปิดเผยว่าจุดประสงค์หลักของ Computer Feet ก็เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ Keyboard สามารถมองเห็นตัวอักษรและเครื่องหมายบนแป้นพิมพ์ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งผู้ที่สามารถพิมพ์ดีดแบบพิมพ์สัมผัสไม่จำเป็นต้องใช้ Computer Feet (เพราะไม่ต้องมองแป้นพิมพ์ขณะพิมพ์)  นอกจากนี้การใช้ Computer Feet เป็นประจำยังอาจทำให้ปวดข้อมือได้เนื่องจากต้องยกข้อมือขึ้นจากมุมปกติ ซึ่งแก้ไข้ได้โดยการปรับความสูงของเก้าอี้

ที่มา: http://lifehacker.com/leave-your-keyboard-feet-folded-in-for-better-ergonomic-514381372

Friday, June 14, 2013

Kopi Luwak หรือ กาแฟขึ้ชะมด



กาแฟขี้ชะมดหรือ Kopi Luwak คือกาแฟที่แพงที่สุดในโลก  กาแฟนี้เป็นกาแฟที่ผลิตครั้งแรกในประเทศอินโดนีเซีย โดยจะผลิตได้เพียง 500 ปอนด์หรือประมาณ 223 กิโลกรัมต่อปีเท่านั้น




กาแฟนี้ต่างจากกาแฟทั่วไปเนื่องจากเมล็ดกาแฟที่นำมาผลิตได้มาจากมูลของตัวชะมดสายพันธ์ palm civet (Paradoxurus hermaphroditus) ในประเทศอินโดนีเซีย   ชะมด palm civet  จะกินผลกาแฟสุกเป็นอาหาร เมื่อผ่านการย่อยสลายจะเหลือแต่เมล็ดกาแฟซึ่งจะถูกถ่ายออกมาพร้อมๆ กับมูลของมัน ชาวไร่กาแฟจะเก็บเมล็ดกาแฟเหล่านี้ไปล้างให้สะอาดก่อนจะคั่วด้วยระยะเวลาสั้นๆ



เอ็นไซม์ในขบวนการย่อยสลายของ ชะมด palm civet ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นและรสเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหอมนุ่มลิ้นมีกลิ่น chocolate ปนกับกลิ่นดินอ่อนๆ  เนื่องจากผลผลิตที่น้อยมากบวกกับความนิยมทำให้ กาแฟขึ้ชะมดเป็นกาแฟที่แพงที่สุดในโลก (ปอนด์ละ 5 - 600 เหรียญ)

ที่มา: http://www.neatorama.com/2013/05/22/The-Science-Behind-Luwak-Coffee/

Friday, June 7, 2013

How Millennial Are You? - เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Genration Y และแบบทดสอบว่าเรามีแนวคิดแบบ Generation ใด?



นักสังคมศาสตร์แบ่งยุคสมัยของคนในศตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบัน ไว้เป็น 6 ยุคคือ

Generation Z  หรือยุคสมัยของคนที่เกิดหลังปี  ค.ศ. 1995

Generation Y หรือ Millennial คือคนที่เกิดประมาณ ค.ศ. 1980 ถึง ค.ศ. 1995

Generation X หรือคนที่เกิดประมาณปี ค.ศ. 1965 ถึง ค.ศ. 1980

The Baby Boomer  หรือคนที่เกิดหลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณปี ค.ศ. 1946 ถึง ค.ศ. 1964  ซึ่งเป็นยุคที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (อัตราการเกิดลดลงอย่างรวดเร็วหลังปี ค.ศ. 1964 ซึ่งเป็นปีที่ยาคุมกำเนิดเริ่มแพร่หลาย)

The Silent Generation หรือคนที่เกิดประมาณปี ค.ศ. 1928 ถึง ค.ศ. 1945  ซึ่งเป็นยุคที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก รวมถึงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

The Greatest Generation หรือคนที่เกิดประมาณปี ค.ศ. 1900 ถึง ค.ศ. 1928

คนที่เกิดในแต่ละยุค (Generation)  จะมีแนวคิด บุคคลิก และการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี, สภาวะเศรษฐกิจ, ความเชื่อ, ขนาดและความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ฯลฯ Pew Research ได้สำรวจคนยุค Generation Y หรือ Millennial  ในสหรัฐอเมริกา โดยเน้นไปที่คนอายุ 18 ถึง 29 ปี ซึ่งคือกลุ่มวัยรุ่นและคนเริ่มทำงานซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต  พบว่าแนวโน้มของคนในยุค Millennial  จะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูง มีแนวคิดเสรีนิยม กล้าแสดงออก และยอมรับในความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ มีการระดับการศึกษาสูงกว่าทุกๆ generation ที่ผ่านมา การสำรวจพบว่า 75% ของคน Generation Y มี Profile ใน Social Website,  20% เคย Post Video เกี่ยวกับตนเองบน Internet,  40% เติบโตในครอบครัวที่หย่าร้าง,  20% แต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ฯลฯ  (รายละเอียดสามารถอ่านได้จาก http://www.pewsocialtrends.org/2010/02/24/millennials-confident-connected-open-to-change/)

แต่คนที่เกิดใน Generation ใดก็ไม่จำเป็นต้องมีแนวคิดอย่างคนใน Generation นั้นเสมอไป คนในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุก็อาจมีแนวคิดแบบคน Generation Y ก็ได้  พวกเราที่อยากรู้ว่าแนวคิดของเราอยู่ใน Generation ใด สามารถทดสอบได้ จาก How Millennial Are You?  โดยการตอบคำถามง่ายๆ 14 ข้อ และเช็คผลคะแนนว่าเราเป็นคนใน generation ใดครับ